Highlights
- ทำงานต่อเนื่อง 2.5 ชม. หรือ 250 ตรม.
- Suction Power 1800 Pa สามารถปรับระดับความแรงได้
- ใช้ Sensor จำนวน 12 ตัว สำหรับตรวจจับสิ่งกีดขวาง
- มีระบบ SLAM ที่จะทำการสร้างแผนที่ห้องอัตโนมัติ แบบ 360 อาศา
- ใช้มอเตอร์อย่างดีจากญี่ปุ่น (Nidec)
- ตรวจดูการทำงานแบบ Real time จาก Smart Phone
Review
ข้อดีของ Xiaomi Robot เทียบกับ iRobot และ Neato
หุ่นยนต์ทำความสะอาด ของ Xiaomi รุ่นนี้เหมือนเป็นการเอาข้อดีของทั้ง iRobot และ Neato มาผสมกันครับ
จากที่เคยใช้มาแล้วทั้งสามยี่ห้อ หรือคนที่เคยใช้ iRobot กับ Neato มาก่อน จะรู้ว่าแต่ละยี่ห้อมีข้อเสียอะไรบ้าง
ซึ่งทาง Xiaomi ได้พัฒนาต่อมาอีกขั้น เอาข้อดีต่างๆของแต่ละยี่ห้อมาผสมกัน ออกมาเป็นตัวนี้ครับ
ข้อแรกที่ชัดเจนเลยจะเห็นว่ารูปร่างหน้าตาของ Xiaomi จะออกไปทาง iRobot เป็นทรงวงกลม ซึ่งข้อดีก็คือเวลาทำความสะอาดแล้วหุ่นยนต์จะไม่ติด เหมือนของ Neato ที่เป็นทรงสี่เหลี่ยม ที่เวลาเข้ามุมอับ ที่มีทางออกแคบๆ จะไม่สามารถถอยออกมาได้
ข้อที่สอง คือ การทำความสะอาดถังฝุ่น และ filter กรองฝุ่น
Filter ของ Xiaomi ขนาดใหญ่เหมือนของ Neato แต่ ทำความสะอาดง่าย เหมือนฝั่ง iRobot
สำหรับผู้ที่เคยใช้ Neato มาก่อน จะต้องคอยเอาเครื่องดูดฝุ่นมาดูดผงออกจากร่องของ filter
แต่ Xiaomi แก้ปัญหาตรงนี้เรียบร้อย เวลาเอาถังฝุ่นมาทำความสะอาด ผู้ใช้ไม่ต้องมาคอยทำความสะอาด แผ่น filter เหมือนทางฝั่ง Neato เลยครับ
กับวิธีการดูดฝุ่นเข้าไปในตัวเครื่อง Xiaomi ได้เลือกใช้วิธีเดียวกับฝั่ง iRobot ซึ่งจะทำการปั่นฝุ่นให้รวมกันเป็นก้อน เวลาเทฝุ่นจะจับกันเป็นแผ่นๆ ออกมาเป็นชิ้นใหญ่ๆ ไม่ฟุ้งเหมือนกับฝั่ง Neato ครับ
ข้อที่สาม ใช้แบตเตอรี่แบบ Li-on แบบใหม่ ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ยาวนานกว่า พร้อมกับชาร์จเร็วขึ้นกว่าแบตชนิดอื่น
เทียบกับการใช้งานจริง ตอนเปิดให้ Neato ทำความสะอาด office ทั้งชั้น (ขนาดประมาณ 75 ตร.ม.) แบตจะหมดพอดี
ส่วนของ Xiaomi จะเหลือแบตอีก 60-70% สบายๆ
อันนี้เป็นรีวิวจากประสบการณ์ที่เคยใช้มาแล้วครบทั้ง 3 ยี่ห้อครับผม
ส่วนเจ้า Xiaomi Robot Vacuum ตัวนี้ก็มี function ใหม่ๆ สามารถต่อ Wifi ดูสถานะการทำงาน พร้อมแสดงตำแหน่งของหุ่นยนต์ตอนทำความสะอาด โชว์แผนที่ map ออกมาให้เห็นได้เลยว่าวิ่งทำความสะอาดส่วนไหนไปแล้วบ้าง
เป็นลูกเล่นเล็กๆน้อยๆ ที่เจ้าอื่นยังไม่มีครับ
Details
- Suck with an air pressure of 1,800 Pa
- Have 3 power modes
- The suction power comes from an ultra-quiet and yet powerful Nidec brushless motor.
- 5200mAh (14.4V / 74.88Wh) lithium ion battery
- Two and half hours of continuous cleaning, after which it will automatically return to its base for recharging. (Standard mode)
- Cleaning around 2700 sq ft (250 sq m) of floor space
- Store a volume of dirt of 14 oz (0.42 liters)
- Easily accessible
- Bin sensor will lets you know when the robot needs emptying
- Use HEPA filter
- Get replacements relatively cheap
- Use 12 different sensors to navigate your home
- Three processors for the Simultaneous Localization and Mapping (SLAM) movement algorithm
- The laser distance sensor, scanning horizontally its surroundings in full 360 degrees up to 1,800 times a second
- 4 cliff sensors that prevent the vacuum from falling down the stairs
- Diameter of 13.5 inches (34.29 cm), and a height of 3.8 inches (9.65 cm).
- Weights around 8.4 lbs (3.8 kg)
- 1 side brush that directs dirt and dust to the suction inlet
- The robot maintains a 1 cm distance from walls and furniture to allow the side brush to clean right into the corners of the room.
- 2 buttons on the case
- By installing the Mi Home app, available on both Android and IOS
- The robot works very well on all kinds of surfaces, from low pile and medium pile carpets to hard floors.
- The robot knows where to return to juice up.